1. ประคบเย็น (Cold Compress)

การประคบเย็นเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการช่วยลดการบวมหลังการผ่าตัด โดยการใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือเจลเย็นประคบเบาๆ บริเวณที่มีอาการบวม (เช่น ใบหน้า, จมูก หรือหน้าอก) ในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด การประคบเย็นจะช่วยลดอาการบวมและฟกช้ำได้ดี

2. นอนในท่าหัวสูง

หลังการทำศัลยกรรมควรหลีกเลี่ยงการนอนราบ การนอนในท่าหัวสูงจะช่วยลดการบวมที่ใบหน้าหรือจมูก เพราะการนอนในท่าหัวสูงจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและลดอาการบวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรใช้หมอนหนุนสูงจากระดับร่างกายประมาณ 30 องศา

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น และช่วยในการกำจัดของเสียออกจากร่างกายที่อาจทำให้เกิดอาการบวม ควรดื่มน้ำประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน แต่ต้องหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเกลือหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในช่วงฟื้นฟู

4. หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่รุนแรง

ในช่วงแรกหลังการผ่าตัด ควรหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวรุนแรงหรือการทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากเกินไป เช่น การออกกำลังกายหนัก การยกของหนัก หรือการเคลื่อนไหวร่างกายที่อาจกระทบกับแผล เนื่องจากการเคลื่อนไหวรุนแรงอาจทำให้การบวมเพิ่มขึ้นและยืดระยะเวลาในการฟื้นฟู

5. ทานอาหารที่ช่วยลดการบวม

การทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและช่วยลดการบวม เช่น อาหารที่มีวิตามิน C สูง (ผลไม้ตระกูลส้ม, สตรอว์เบอร์รี) หรืออาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (เช่น ผักใบเขียว, มะเขือเทศ) จะช่วยกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูและลดการบวมได้

6. ทานยาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

หลังการทำศัลยกรรม แพทย์จะสั่งยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ควรทานยาตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด และไม่ควรหยุดยาเอง โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ฟื้นฟู

7. หลีกเลี่ยงการออกแดดจัด

รังสี UV จากแสงแดดสามารถทำให้แผลบวมและทำให้แผลหายช้าลง ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด หากต้องออกจากบ้านควรทาครีมกันแดดที่เหมาะสมหรือใส่หมวกเพื่อปกป้องแผล

8. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์

การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์สามารถทำให้กระบวนการฟื้นฟูช้าลง และอาจส่งผลให้แผลเกิดการติดเชื้อหรือเกิดอาการบวมมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ในช่วงพักฟื้น